ไม้ตาย MMA
Mountain –
ท่าภูเขาถ้าเราดูจากรูปก็จะเห็นว่าคนที่ขึ้นคร้อมอยู่ข้างบนนั้นได้เปรียบ
มากเพราะในตำ
แหน่งนี้เขาสามารถจู่โจมใบหน้าของคู่ต่อสู้ซึ่งเป็นจุดอ่อนได้หลายทางเช่น
ต่อย ศอก ทุบ และ อาร์มบาร์ แถมยังได้แรงโน้ม
ถ่วงของโลกช่วยเสริมกำลังตำแหน่งนี้ถือเป็นตำแหน่งที่แย่ ที่สุดของคนที่
อยู่ข้างล่างเนื่องจากช่วงชกจะสั้นไปไม่ถึงใบหน้าคู่ต่อสู้แถมหน้าอกยังถูก
นั่งทับทำให้หายใจลำบากบวกกับการต่อสู้ต้องกระทำต้านแรงโน้มถ่วงของโลก
ดังนั้น โดยทั่วไปคนที่อยู่ใต้ภูเขามักจะไม่จู่โจมแต่จะ
ป้องกันตัวแล้วหาทางหนีไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า
1. Armbar – อาร์มบาร์เป็นท่าไม้ตายที่ถูกใช้มากที่สุดในกีฬา MMA เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ หัวใจของอาร์บาร์ คือการจู่โจมที่จุดอ่อนของท่อนแขน ซึ่ง
ก็คือขอศอกนั้นเองเนื่องจากธรรมชาติออกแบบมาให้ข้อศอก
เคลื่อนไหวได้ในทิศทางเดียวเท่านั้นและเมื่อไรที่มันถูกดันย้อนศรมันก็หัก
ท่านี้สามารถใช้ได้กลาง อากาศเรียกว่าฟลายอิ้งอาร์บาร์ (Flying Armbar)
ถือเป็นท่าที่สวยงามที่สุดท่าหนึ่ง อาร์มบาร์มีใช้มาก ในวิชา ยูโด ยูยีสสู
มวยปล้ำ และแพนแครชั่น
2. Choke –
โชกค์ หรือที่นักศิลปะการต่อสู้ชาวไทยเรียกกันว่า “เชือด”
วิธีที่นิยมใช้กันคือการกดหรือรัดที่
ลำคอในตำแหน่งของเส้นเลือดใหญ่ที่นำออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง (carotid artery)
เส้นใดเส้นหนึ่งหรือ
ทั้งสองเพื่อกั้นไม่ให้เลือดจากหัวใจใหลผ่านและนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้
ส่งผลให้สมองเกิดภาวะขาดเลือดคนที่ถูกเชือดแบบนี้จะรู้สึกหน้ามืดจนถึงขั้น
สลบหรือเสียชีวิต การเชือดมีใช้มากในวิชา ยูโด ยูยีสสู มวยปล้ำ และแพนแครชั่น
3. Spinning Back Kick –
กลับหลังหันเตะเป็นท่าที่นัก MMA ไม่ค่อยใช้กันบ่อยนักเพราะมีข้อเสีย คือ
เมื่อใช้แล้วเกิดพลาดจะอยู่ใจตำแหน่งที่หันหลังให้กับคู่ต่อสู้และอาจถูกจู่
โจมมาทางข้างหลังในจังหวะนั้นแต่ด้วยเหตุผลที่ไม่ค่อยมีคนใช้กันก็กลายเป็น
ข้อดีคือไม่ค่อยมีไครระวัง ซึ่งก็เป็นความจริงที่นัก
สู้หลายต่อหลายคนต้องจบการแข่งขันลงด้วย Spinning Back Kick
ท่าที่มีใช้มากในวิชา เทควอนโด้ คาราเต้ กังฟู และมวยไทย (จระเข้ฟาดหาง)