Mix Martial Art หรือที่เรานิยมเรียกกันสั้นๆว่า MMA
มีความหมายในภาษาไทยว่าศิลปะการต่อสู้แบบผสม ผสาน
และในบทความต่อไปนี้ก็จะมีการกล่าวถึงศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานอยู่ตลอดเวลา
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าแบบผสมผสาน
ได้เริ่มมีการวางกฎและจัดให้มีการแข่งขันอย่างเป็นทางการขึ้นเป็นครั้งแรก
ที่ประเทศกรีก เมื่อประมาณ 648 ปีก่อนคริสต์ศักราช
ซึ่งศิลปะการต่อสู้ที่นักรบในสมัยนั้นใช้ต่อสู้กันก็คือ แพนแครชั่นกรีก (Greek Pankration)
นั่นเอง ปี ค.ศ. 2009 และสิ่งที่เรากำลังสนใจกัน
แบบจำลองรูปปั้น Greek Pankration
แบบจำลองเวทีมวยแปดเหลี่ยมของ UFC
UFC สมัยแรก (UFC1) ในปี ค.ศ. 1993 ซึ่งในครั้งนั้นการแข่งขันต่อสู้ในรายการ UFC ยังไม่ใช่การต่อสู้แบบ MMA อย่างเต็มตัวเหมือนในทุกวันนี้ เพราะใน UFC1 นั้นทางผู้จัดได้ทำการเชิญนักศิลปะการต่อสู้มาจากหลายแขนงเช่น คาราเต้ ซาวาท กังฟู ซูโม่ ยูยีสสู และมวยสากล ซึ่งการแข่งขันในครั้งนั้นมีเจตนาที่จะหาผู้ชนะแต่เพียงผู้เดียวและเพื่อพิสูจน์ความเป็นที่สุด ของศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่า จนสุดท้ายแล้ว บราซิลเลี่ยนยูยีสสู ก็ได้รับชัยชนะโดยมี Royce Gracie เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ แต่เหตุการณ์เหล่านั้นมันก็แค่แล้วไป เพราะคำพูดที่ว่า “บราซิลเลี่ยนยูยีสสูเป็นศิลปะ การต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่ดีที่สุดในโลก” นั้นยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป โดยเฉพาะกับนักศิลปะการต่อสู้ แขนงอื่นๆ ซึ่งก็ยังคงยกย่องและเชื่อมั่นในศิลปะการต่อสู้ของตนอยู่อย่างเหนียวแน่น
สำหรับนักสู้ MMA
เขาจะไม่สนใจเลยว่าท่วงท่าลีลาของอันนี้กับอันนั้นมันมาจากไหนเพียงแค่มัน
ใช้บนสังเวียน ได้เขาใช้หมด เพราะ MMA มีคุณสมบัตรตามชื่อคือ
ไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้แบบเดียวแต่ผสม เพราะเราต้องเข้าใจว่า MMA ไม่ได้มีใว้ใช้แค่ใน UFC
-Ultimate Fighting Championship เพียงอย่างเดียว
ยังมีอีกหลากหลายรายการเล็กและใหญ่ทั่วโลกที่จัดแข่งขัน MMA
ซึ่งก็มีกฎเกณฑ์และกติกาที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งบางคนก็ไม่ได้ฝึกฝนวิชา
MMA เพียงเพื่อใช้ใน การกีฬาแต่เพียงอย่างเดียว คนเหล่านี้อาจต้องนำ MMA
ไปใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น พนักงานรักษาความ ปลอดภัย ข้าราชการทหาร
และข้าราชการตำรวจ ด้วยเหตุผลของการใช้งานนี้เอง ที่ทำให้ผู้ฝึก MMA ต้องเลือก ว่าจะผสมศิลปะการต่อสู้อันไหนเข้ากับอันไหนเพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดต่อการใช้งาน