หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

นักกีฬา MMA ระดับโลก

นักกีฬา MMA ระดับโลก
          1. Bus Rutten   ชื่อเต็ม Sebastiaan Rutten เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในวงการ MMA ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะเลิกเป็นนักสู้อาชีพใน MMA แล้ว แต่ด้วยอายุ 44 ปีก็ยังไม่ทำให้เขาแก่เกินแกงยังคงทำงานและทุ่มเทให้ กับวงการ MMA อยู่ตลอด Bas Rutten เป็นนักมวยไทย เทควอนโด้ เคียวคูซิน และมวยปล้ำ เป็นนักสู MMA ที่เป็นแชมป์มาแล้วในแทบจะทุกรายการใหญ่

 

           2. Rickson Gracie –  อายุ 50 ปีเป็นชาวบราซิลเกิดที่เมือง ริโอ ดี เนจีโร ในประเทศบราซิล เป็นสมาซิก ในตระกูล Gracie (ตระกูลผู้คิดค้นบราซิลเลี่ยนยูยีสสู) เป็นนักบราซิลเลี่ยนยูยีสสูระดับสายดำขั้นแปด เขาเป็นแชมป์ MMA รายการ Vale Tudo Japan ในปี ค.ศ. 1994 – 1995 สถิติการชก MMA : 11 ครั้ง โดยชนะทั้งหมดด้วยการยอมแพ้ของคู่ต่อสู้

 

           3. B.J. Penn – ชื่อจริง Jay Dee Penn เกิดที่ฮาวาย และในปี ค.ศ. 2000 เขาได้เป็นชาวอเมริกาที่เกิดใน ประเทศอเมริกาคนแรกที่เป็นแชมป์โลกรายการ World Jiu-Jitsu Championship ต่อมาในปี ค.ศ. 2004 เขาก็ได้แชมป์โลกราย การ UFC46 ปัจจุบันเขามีอายุ 30 ปี B.J. Penn เริ่มฝึกบราซิลเลี่ยน ยูยีสสูตอนอายุ 17 ปีปัจจุบันอยู่ในระดับสายดำ นอกจากบราซิลเลี่ยนยูยีสสูแล้วเขายังเป็นนักมวย สากลอีกด้วย

 

           4. Georges St-Pierre – หรือ ที่เรียกสั้นๆว่า GSP เขาคือแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวทของรายการ UFC – Ultimate Fighting Championship คนปัจจุบัน และยังได้รับตำแหน่งมือวางอันดับหนึ่งของโลกในรุ่นนี้ โดยการจัดอันดับของสมาคม Multiple MMA Publications เขาเป็นนัก คิกบ๊อกซิ่ง และมวยปล้ำ รวมทั้งยังได้รับสายดำในศิลปะการต่อสู้ เคียวคูซิน กับ บราซิลเลี่ยนยูยีสสู ปัจจุบันอายุ 28 ปี

 

ไม้ตาย MMA

ไม้ตาย MMA
          Mountain – ท่าภูเขาถ้าเราดูจากรูปก็จะเห็นว่าคนที่ขึ้นคร้อมอยู่ข้างบนนั้นได้เปรียบ มากเพราะในตำ แหน่งนี้เขาสามารถจู่โจมใบหน้าของคู่ต่อสู้ซึ่งเป็นจุดอ่อนได้หลายทางเช่น ต่อย ศอก ทุบ และ อาร์มบาร์ แถมยังได้แรงโน้ม ถ่วงของโลกช่วยเสริมกำลังตำแหน่งนี้ถือเป็นตำแหน่งที่แย่ ที่สุดของคนที่ อยู่ข้างล่างเนื่องจากช่วงชกจะสั้นไปไม่ถึงใบหน้าคู่ต่อสู้แถมหน้าอกยังถูก นั่งทับทำให้หายใจลำบากบวกกับการต่อสู้ต้องกระทำต้านแรงโน้มถ่วงของโลก ดังนั้น โดยทั่วไปคนที่อยู่ใต้ภูเขามักจะไม่จู่โจมแต่จะ ป้องกันตัวแล้วหาทางหนีไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า

          1. Armbar – อาร์มบาร์เป็นท่าไม้ตายที่ถูกใช้มากที่สุดในกีฬา MMA เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ หัวใจของอาร์บาร์ คือการจู่โจมที่จุดอ่อนของท่อนแขน   ซึ่ง ก็คือขอศอกนั้นเองเนื่องจากธรรมชาติออกแบบมาให้ข้อศอก เคลื่อนไหวได้ในทิศทางเดียวเท่านั้นและเมื่อไรที่มันถูกดันย้อนศรมันก็หัก ท่านี้สามารถใช้ได้กลาง อากาศเรียกว่าฟลายอิ้งอาร์บาร์ (Flying Armbar) ถือเป็นท่าที่สวยงามที่สุดท่าหนึ่ง อาร์มบาร์มีใช้มาก ในวิชา ยูโด ยูยีสสู มวยปล้ำ และแพนแครชั่น


         2. Choke – โชกค์ หรือที่นักศิลปะการต่อสู้ชาวไทยเรียกกันว่า “เชือด” วิธีที่นิยมใช้กันคือการกดหรือรัดที่ ลำคอในตำแหน่งของเส้นเลือดใหญ่ที่นำออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง (carotid artery) เส้นใดเส้นหนึ่งหรือ ทั้งสองเพื่อกั้นไม่ให้เลือดจากหัวใจใหลผ่านและนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ ส่งผลให้สมองเกิดภาวะขาดเลือดคนที่ถูกเชือดแบบนี้จะรู้สึกหน้ามืดจนถึงขั้น สลบหรือเสียชีวิต การเชือดมีใช้มากในวิชา ยูโด ยูยีสสู มวยปล้ำ และแพนแครชั่น

          3. Spinning Back Kick – กลับหลังหันเตะเป็นท่าที่นัก MMA ไม่ค่อยใช้กันบ่อยนักเพราะมีข้อเสีย คือ เมื่อใช้แล้วเกิดพลาดจะอยู่ใจตำแหน่งที่หันหลังให้กับคู่ต่อสู้และอาจถูกจู่ โจมมาทางข้างหลังในจังหวะนั้นแต่ด้วยเหตุผลที่ไม่ค่อยมีคนใช้กันก็กลายเป็น ข้อดีคือไม่ค่อยมีไครระวัง ซึ่งก็เป็นความจริงที่นัก สู้หลายต่อหลายคนต้องจบการแข่งขันลงด้วย Spinning Back Kick ท่าที่มีใช้มากในวิชา เทควอนโด้ คาราเต้ กังฟู และมวยไทย (จระเข้ฟาดหาง)

วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Mix Martial Art

        Mix Martial Art  หรือที่เรานิยมเรียกกันสั้นๆว่า MMA มีความหมายในภาษาไทยว่าศิลปะการต่อสู้แบบผสม ผสาน และในบทความต่อไปนี้ก็จะมีการกล่าวถึงศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานอยู่ตลอดเวลา
       จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าแบบผสมผสาน ได้เริ่มมีการวางกฎและจัดให้มีการแข่งขันอย่างเป็นทางการขึ้นเป็นครั้งแรก ที่ประเทศกรีก เมื่อประมาณ 648 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งศิลปะการต่อสู้ที่นักรบในสมัยนั้นใช้ต่อสู้กันก็คือ แพนแครชั่นกรีก (Greek Pankration) นั่นเอง ปี ค.ศ. 2009 และสิ่งที่เรากำลังสนใจกัน
                                                       แบบจำลองรูปปั้น Greek Pankration
 
                                                     
                                                   แบบจำลองเวทีมวยแปดเหลี่ยมของ UFC

       UFC สมัยแรก (UFC1) ในปี ค.ศ. 1993  ซึ่งในครั้งนั้นการแข่งขันต่อสู้ในรายการ UFC ยังไม่ใช่การต่อสู้แบบ MMA อย่างเต็มตัวเหมือนในทุกวันนี้ เพราะใน UFC1 นั้นทางผู้จัดได้ทำการเชิญนักศิลปะการต่อสู้มาจากหลายแขนงเช่น คาราเต้ ซาวาท กังฟู ซูโม่ ยูยีสสู และมวยสากล ซึ่งการแข่งขันในครั้งนั้นมีเจตนาที่จะหาผู้ชนะแต่เพียงผู้เดียวและเพื่อพิสูจน์ความเป็นที่สุด ของศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่า จนสุดท้ายแล้ว บราซิลเลี่ยนยูยีสสู ก็ได้รับชัยชนะโดยมี Royce Gracie เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ แต่เหตุการณ์เหล่านั้นมันก็แค่แล้วไป เพราะคำพูดที่ว่า “บราซิลเลี่ยนยูยีสสูเป็นศิลปะ การต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่ดีที่สุดในโลก” นั้นยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป โดยเฉพาะกับนักศิลปะการต่อสู้ แขนงอื่นๆ ซึ่งก็ยังคงยกย่องและเชื่อมั่นในศิลปะการต่อสู้ของตนอยู่อย่างเหนียวแน่น
       สำหรับนักสู้ MMA เขาจะไม่สนใจเลยว่าท่วงท่าลีลาของอันนี้กับอันนั้นมันมาจากไหนเพียงแค่มัน ใช้บนสังเวียน ได้เขาใช้หมด เพราะ MMA มีคุณสมบัตรตามชื่อคือ ไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้แบบเดียวแต่ผสม เพราะเราต้องเข้าใจว่า MMA ไม่ได้มีใว้ใช้แค่ใน UFC -Ultimate Fighting Championship เพียงอย่างเดียว ยังมีอีกหลากหลายรายการเล็กและใหญ่ทั่วโลกที่จัดแข่งขัน MMA ซึ่งก็มีกฎเกณฑ์และกติกาที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งบางคนก็ไม่ได้ฝึกฝนวิชา MMA เพียงเพื่อใช้ใน การกีฬาแต่เพียงอย่างเดียว คนเหล่านี้อาจต้องนำ MMA ไปใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น พนักงานรักษาความ ปลอดภัย ข้าราชการทหาร และข้าราชการตำรวจ ด้วยเหตุผลของการใช้งานนี้เอง ที่ทำให้ผู้ฝึก MMA ต้องเลือก ว่าจะผสมศิลปะการต่อสู้อันไหนเข้ากับอันไหนเพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดต่อการใช้งาน